กำแพงวังท่าพระ
เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ทรงสร้างวังเพื่อโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่ สมเด็จเจ้าฟ้า

กรมขุนกษัตรานุชิต เนื่องจากวังนี้เป็นวังชั้นเจ้าฟ้า กำแพงล้อมรอบวังจึงเป็นกำแพงที่มีใบเสมาล้อมรอบอย่าง

วังเจ้าฟ้า เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ได้ครอบครอง วังท่าพระนั้น กำแพงเดิมทรุดโทรมลง

มากแล้ว จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้า เจ้าอยู่หัว มีการขยายถนนมหาราชและถนนหน้าพระ

ลานให้กว้างมากขึ้น ทำให้ต้องร่นเขตวังเข้ามาทั้งสองด้าน สมเด็จฯกรมพระยานริศฯจึงทรงสร้างกำแพงวังขึ้น

ใหม่ด้านถนนหน้าพระลาน ส่วนประตูวังก็ทำใหม่ถึงสองครั้ง 

สมเด็จฯกรมพระยานริศฯ ทรงออกแบบกำแพงวังท่าพระใหม่โดยใช้คอนกรีตเสริมเหล็ก (Ferro - concrete)

 ลักษณะกำแพงคล้ายป้อมหรือเชิงเทินประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วนคือ ประตูวังและกำแพงวัง ส่วนของประตู

วังมีรูปทรงสี่เหลี่ยม มีผนังสามด้าน หลังคารวมและเล่นระดับชั้นหลังคาโดยให้ซุ้มประตูตรงกลางสูงที่สุด มีการ

เล่นระยะของฉากหน้าเป็นระบบสามมิติ เมื่อประตูวังเปิดออกจะเห็นท้องพระโรงวังท่าพระซึ่งตั้งอยู่ภายในเป็น

ฉากหลัง นับว่าประตูวังท่าพระเป็นสถาปัตยกรรมเพียงชิ้นเดียวที่เป็นสถาปัตยกรรมฝีพระหัตถ์สมเด็จฯ กรมพระ

ยานริศฯ เนื่องจากทรงมีพระประสงค์ที่จะให้บานประตูดูสูงใหญ่และมีการตกแต่งจนทำให้เกิดความกว้างและ

สมดุลย์กับความสูงขึ้น มีความต่อเนื่องกับกำแพงวัง เล่นความต่างกันของระนาบ สร้างความต่อเนื่องของประตู

และกำแพงแก้วด้วยกำแพงโค้ง หัวเสาและซุ้มใส่ดวงประทีปซึ่งช่วยทำให้เกิดความประสานกลมกลืนกัน เจาะ

หน้าต่างที่ผนังด้านทิศใต้เพื่อให้แสงสว่างและช่วยในการถ่ายเทอากาศของพื้นที่ใต้หลังคา ผนังด้านทิศตะวัน

ออกและทิศตะวันตกเจาะเป็นช่องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าและก่ออิฐให้เหลื่อมกันไปมาอย่างเป็นระเบียบ ทำให้มี

ลวดลายคล้ายหน้าต่างช่องลมในสมัยสุโขทัยและอยุธยาตอนต้น

ตุ๊กตาหินจีน
ตุ๊กตาหินคู่สีเขียวที่ตั้งอยู่หน้าประตูวังท่าพระนั้นสันนิษฐานว่าเป็นอับเฉาเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า

เจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) เมื่อครั้งที่ยังดำรงพระยศเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณ

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ซึ่งเป็นสมเด็จพระบรมชนกนาถในตำแหน่งสำคัญหลาย

ตำแหน่งโดยทรงบัญชางาน ณ วังท่าพระ งานด้านกรมท่าเป็นพระกรณียกิจที่ทรงขวนขวายหาพระราชทรัพย์

ถวายพระบรมชนกนาถด้วยการแต่งสำเภาออกไป ค้าขายยังเมืองจีน ด้วยเหตุที่ยังเป็นระยะแรกสร้างพระนคร

จึงยังขัดสนด้วยพระราชทรัพย์ในการบริหารและทะนุบำรุงพระราชอาณาจักรในระยะเวลานั้น การค้าสำเภา

ทำให้พระองค์ได้ทรัพย์สินขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสมเด็จพระบรมชนกนาถเป็นจำนวนมากจนได้รับพระ

ราชทานนามว่า "เจ้าสัว" ส่วนวังท่าพระซึ่งเป็นที่ประทับและทรงงานของพระองค์เปรียบเสมือนการท่าเรือ 

กรมศุลกากร กรมพระคลังมหาสมบัติ และกระทรวงการต่างประเทศรวมกันโดยปริยาย ดังนั้น สินค้าที่ส่งไป

เมืองจีน หรือสินค้ากลับจากเมืองจีนจึงต้องผ่านการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ใน วังท่าพระด้วย เหตุนี้ภายใน

วังท่าพระจึงได้ปรากฎตุ๊กตาหินจีนและเศษเครื่องถ้วยชามจีนกระจายอยู่ ทั่วไป ตุ๊กตาหินจีนสีเขียวคู่ที่ตั้งอยู่

หน้าประตูนั้นสันนิษฐานว่าเป็นอับเฉาที่ใช้ถ่วงเรือสำเภาจากเมืองจีนกลับมายังไทยในสมัยพระองค์ท่านนั้นเอง